“A stunning, tactile, eco design. This is a very effective piece of packaging design for ‘no label’ bottled water driven by deep consumer insight. The clever design details and wonderful execution make this a standout entry in this category. Well done.”
ชื่อของแบรนด์น้ำดื่ม C2 มีที่มาจาก See Through หรือ Circular Economy + 2gether สะท้อนถึงภารกิจที่ต้องดำเนินการของแบรนด์นี้
แบรนด์น้ำดื่มซีทรู C2 Water No Label ถูกตีพิมพ์ในนิตรสารดังของประเทศอังกฤษ อย่าง ECO PLASTIC IN PACKAGING : October 2022 และ ถูกตีพิมพ์ในหนังสือดีไซน์ของอิตาลี BEST IN PACKAGING 2021
รวมถึงน้ำดื่มซีทรู C2 Water No Label จะไปแสดงในพิพิธภัณฑ์ที่ MODA (Museum of Design Atlanta) USA ซึ่งนิทรรศการที่จะไปจัดแสดงนั้นเกี่ยวกับ “food packaging design”,”การออกแบบบรรจุภัณฑ์อาหาร” จัดที่ MODA Museum of Design Atlanta (Atlanta, USA) ซึ่งนิทรรศการนี้ Curate โดย Elisabetta Pisu และ Amina Pereno นักวิจัยที่ POLITECNICO OF TURIN ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบบรรจุภัณฑ์ในยุคดิจิทัล นิทรรศการที่ Atlanta นี้ จะเป็นเรื่องราวที่ครอบคลุมถึงวิวัฒนาการของบรรจุภัณฑ์อาหาร ตั้งแต่การค้นพบวัสดุที่เป็นจุดเริ่มต้น รวมถึงจุดเปลี่ยนในการปฏิวัติบรรจุภัณฑ์ไปสู่อนาคต (ทั้งบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะ, ความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัยของอาหาร)
คราวนี้เราก็จะได้หลักๆ เรียบร้อยแล้ว แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่ขาดเสียไม่ได้ก็คือ ต้องรู้ไว้ว่า การที่ทำงานน้อยๆ แต่ได้ผลลัพธ์ที่มากนั้น ต้องผ่านกระบวนการคิดที่มากกว่าปกติธรรมดา แล้วตัดทอนออกให้เหลือแต่สาระและใจความสำคัญ จนบางทีแทบจะไม่เหลืออะไรเลย ซึ่งตรงนี้เองต้องใส่จินตนาการและความน่าสนใจในการดึงดูดมากขึ้นตามไปด้วย มิเช่นนั้นงานมินิมัล จะดูไม่น่าสนใจและไม่มีอะไรเลย สุดท้ายก็ต้องอย่าลืมใส่ใจเรื่องรายละเอียดเล็กๆน้อยๆให้งานที่น้อยนั้นดูทรงพลังยิ่งขึ้น อย่างที่ Mies van der Rohe ได้กล่าวไว้อีกคำ คือ “God is in details”
ดังนั้นสรุปการสื่อสารของสินค้ากัญชานั้น ต้องมีการทำการบ้าน เพื่อจะเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการ ซึ่ง อย่างที่ยก Case Study แล้วว่า ทางออกคือไม่ควรสื่อสารในภาพลักษณ์เดิมๆ แต่ควรมีการพัฒนาให้เหมาะสมกับตลาดต่างๆที่เราสนใจ
This week on PERSPECTIVE, meet Somchana Kangwarnjit, Prompt Design a packaging designer who had won multiple world-class awards for 3 years in a row. Delve into the details on the strategy he uses that meets the needs of the consumers. He also shares with us the 7 most popular product trends of 2020. Follow Per and Champ to survey the market to keep yourself updated.
Georges Seurat นี้เป็นศิลปินฝรั่งเศสชื่อดังมากแห่งยุค Pointillism เค้าได้แรงบันดาลได้จาก Claude Monet ศิลปินตำนานเจ้าพ่อลัทธิ Impressionism เค้ามาดัดแปลงและค้นหาวิธีใหม่ๆ จนได้มาเป็นจุดเล็กๆๆมากๆ จนประกอบออกมาเป็นภาพที่เล่าเรื่องราวได้ขนาดใหญ่ Georges Seurat จึงถือว่าเค้าเป็นบุคคลสำคัญแห่งยุค Neo-Impressionism เลย ผลงานอันโดดเด่นของเค้าก็คือ A Sunday on La Grande Jatte อีกคนนึงแห่งยุค Neo-Impressionism และที่ขาดไม่ได้ก็คือ Paul Signac ซึ่งเป็นเพื่อนเค้าที่ร่วมกันผลักดันลัทธิ Pointillism เช่นกัน
Line หรือ เส้น เป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุดขององค์ประกอบทั้งหมดของการออกแบบ มันเป็นสถานที่เริ่มต้นสำหรับการสร้างงานศิลปะ มันเป็นจุดเริ่มต้นของ Basic วิชาเรียนต่างๆของ Class วาดรูป แทบจะทุกๆ Class ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มต้นการวาดภาพ หรือแม้กระทั่งงานประติมากรรม การออกแบบส่วนใหญ่เริ่มต้นด้วยเส้น
ศิลปะ OP Art ย่อมาจาก Optical Art (ปี1965-1970) เป็นศิลปะที่เน้นทฤษฎีการมองเห็นเพื่อให้เกิดการลวงตา รูปแบบจะเกี่ยวข้องกับการออกแบบทางเรขาคณิตที่สร้างความรู้สึกของการเคลื่อนไหว หรือสั่น งานแนวนี้ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในสีดำ และขาว ในยุคหลังๆจะเปลี่ยนเป็นสีสันต่างๆที่ตัดกัน เหลื่อมกัน และยังใช้ช่องว่างทั้งบวกและลบเพื่อสร้างภาพลวงตาตามที่เค้าต้องการ
Op Art สามารถนิยามได้ว่า เป็นทั้งศิลปะนามธรรมหรือรูปธรรม ซึ่งประกอบด้วย เส้น และ รูปทรงเรขาคณิต เพื่อสร้างภาพหลอกตาในประเภทต่างๆ ตัวอย่างเช่นเมื่อดูรูปภาพของ Op Art แบบ High Degree นั้นอาจทำให้ตาตรวจจับความรู้สึกของการเคลื่อนไหว (เช่นบวม, แปรปรวน, กระพริบ, การสั่นสะเทือน) บนพื้นผิวของภาพวาด หรือถ้าแบบ Standard Degree นั้น ด้วยรูปแบบรูปร่างรูปทรง และสี หลอกและเล่าเรื่องภาพเหล่านั้น เพื่อให้ได้เนื้อหาสาระหรืออารมณ์ ตามที่ศิลปินต้องการ
ทำไม Op Art ถึงดังในช่วงนั้น
กระแสความเคลื่อนไหวที่สร้างชื่อกระฉ่อนให้แก่ อ็อพ อาร์ต คือ นิทรรศการ The Responsive Eye จัดโดย MOMA ในนิวยอร์ค เมื่อปี 1965 ทำให้กระแสความนิยมสไตล์นี้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก แม้ว่าสไตล์ OP Art นั้นจะไม่ได้นานมาก แต่ปัจจุบัน งานสไตล์ Op Art นั้นแทบจะเรียกได้ว่านำกลับมาใช้ใหม่อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นวงการแฟชั่น เช่น Hermes Chanel Coach Nike, วงการขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงานประติมากรรม เป็นต้น
ถ้าถามว่าใครคือตัวพ่อตัวแม่ของศิลปะออปอาร์ต ต้องยกให้ Victor Vasarely และ Bridget Riley
ตัวอย่างที่ 2
Peter Saville – ศิลปินชื่อดัง Iconic Record Covers